EXO Short Fic :: Redolence2 [HunLay] - 30%
พี่ถามผมบ้างไม่ได้เหรอ...?
ผู้เข้าชมรวม
1,687
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Title :: Redolence
Couple :: HunLay
Rate :: ทุกเพศทุกวัย
Talk :: ช็อตฟิคเรื่องแรก แต่งไม่ค่อยเก่งมากแต่เพื่อฮุนเลย์เราทำ
กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่จากการที่พึ่งอาบน้ำเสร็จผสมกับกลิ่นหอมอ่อนๆเฉพาะตัวลอยมาแตะจมูกโด่ง เสียงเตาะแตะเบาๆของฝีเท้าทำให้รู้ได้ทันทีว่าคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ไม่ใช่คนร่างใหญ่อะไรนัก
นัยน์ตาคมเป็นประกายขึ้นมาเบาบางจนไม่มีใครสังเกตุเห็น ร่างสูงรีบซ่อนความรู้สึกแปลกๆที่พุ่งขึ้นมา แล้วทำเป็นไม่สนใจคนที่ทรุดนั่งลงกับพื้นข้างๆ
"อี้ชิง~ เห็นเปาจึป้ะ~?" เจ้าของชื่อที่พึ่งเข้ามาร่วมวงหันไปสบตาพี่ชายคนสนิทแล้วจึงส่ายหัวทั้งยิ้มๆ
"อ๊า~ ไหนว่าจะไปเล่นฟุตบอลด้วยกันไง" ลู่หานยู่ปากงอแงก่อนจะเอนไปซบไหล่น้องชายผิวคล้ำข้างๆ ถึงจะถูกผลักหัวออกแต่ก็เอนซบลงไปใหม่จนคนเป็นน้องระอา ปล่อยให้พี่ชายทำตามใจ เพราะพวกเขานั่งล้อมเป็นวงกลมทำให้เรามักจะสังเกตุเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า
"กินข้าวรึยัง?" ตาคมที่กำลังเหม่อลอยกระตุกวาบ ก่อนจะเบนสายตาไปยังข้างๆตัว ก็พบว่าเลย์หรือจางอี้ชิงกำลังหันหน้าไปคุยกับแพคฮยอน นักร้องนำของฝั่งเค ทำให้เซฮุนหันกลับมาทางเดิมช้าๆ
พี่ถามผมบ้างไม่ได้เหรอ...?
เสียงเพลงแทบจะถูกกลบด้วยเสียงกรีดร้องกึกก้องของบรรดาแฟนเพลง
ชายหนุ่ม 12 คน ทั้งเต้นทั้งร้องบนเวทีในชุดยูนิฟอร์มนักเรียนท่ามกลางกล้องและแสงไฟที่รายล้อม จนดำเนินมาถึงท่อนสุดท้ายของเพลง...
"เฮ้อ วันนี้ได้อัดแก้แค่รอบเดียว โชคดีชะมัด" พยอนแพคฮยอนนักร้องนำของวงพูดอย่างเนือยนาดขณะกระแทกตัวลงกับเบาะรถ ตามด้วยปาร์คชานยอลแร็ปเปอร์ของวงที่ระริกระรี้ลงมานั่งข้างๆ
ผู้ที่อายุน้อยที่สุดในวงอย่างเซฮุนก็ส่ายหัวเบาๆด้วยความเหนื่อยล้าจัดการปีนขึ้นรถตู้ของพวกเขาแล้วเลือกที่จะแทรกตัวไปนั่งที่เบาะในสุดริมสุด
จะหลับเป็นตายเลยคอยดู
เมื่อซูโฮหรือจุนมยองขึ้นมาเป็นคนสุดท้าย ก็เกิดเสียงประตูรถปิดลงพร้อมเปลือกตาของโอเซฮุน เสียงเจี้ยวจ้าวเล็กน้อยของชานยอลกับแพคฮยอนไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการนอนของเขา แต่ไม่นานก็มีเสียงเปิดประตูรถและเสียงเอะอะมะเทิ่งดังกว่าเดิมพร้อมรถตู้ที่สั่งโคลงเคลงที่น่าจะมีสาเหตุจากการที่มีคนเดินเข้าเดินออกกันในควั่ก
แต่ความอ่อนเพลียก็กดเปลือกตาของเซฮุนเอาไว้แน่น ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องหลับให้ได้
เมื่อความง่วงถูกประคับประคองมาจนได้ที่ สติของเด็กหนุ่มก็ทำท่าจะเลือนหายไป แม้เสียงปิดประตูจะดังมากจนมีเสียงบ่นจากผู้จัดการตามมา เพราะเบาะหลังสุดเป็นเบาะยาวจึงไม่ยากถ้าจะรู้สึกได้ว่ามีการลุกหรือนั่งโดยไม่จำเป็นต้องมอง
ที่นั่งข้างๆเซฮุนทรุดยวบลง
กลิ่นหอมอ่อนๆคุ้นจมูกค่อยๆเรียกสติน้องเล็กให้กลับคืนมาอีกครั้ง เปลือกตาหนักอึ้งเบิกโพลงอย่างไม่ใยดีความง่วงงุนใดๆ แล้วก็พบเจ้าของกลิ่นหอมที่เขาจำได้ดีนั่งอยู่ข้างๆ
"ทำให้ตื่นเหรอ? ขอโทษนะ" วิธีการพูดและการคลี่ยิ้มอันอ่อนโยนทำให้เซฮุนค้างจนนิ่ง เลือดในกายเผลอซูบฉีดจนไม่กล้าขยับตัว
"เซฮุน...เซฮุน?" อี้ชิงเอามือขึ้นมาโบกไปมาเพื่อเช็คสติของน้องเล็กที่มองหน้าเขานิ่ง ไม่นานเซฮุนก็หลบตาแล้วมองไปรอบๆคันรถ พบว่าบนรถตู้คันนี้ไม่ได้มีเพียงเม็มเบอร์ฝั่งเคอีกต่อไปแล้ว หากแต่มีฝั่งเอ็มและเมเนเจอร์เข้ามาอัดกันด้วย
"เมื่อกี้เซฮุนนอนอยู่คงไม่รู้เรื่องสินะ จู่ๆรถตู้เอ็มมันเสียน่ะ เลยมาขอขึ้นฝั่งนี้ อึดอัดนิดนึงนะ" ที่ว่าอึดอัดไม่ได้ไกลจากความเป็นจริงเลยสักนิด เพราะพวกเขามีตั้ง 12 คน เมเนเจอร์อีกสาม รถตู้พวกเขาก็ใช่ว่าจะใหญ่อะไรมากเพราะทีแรกมีสองคันเลยแบ่งกันนั่ง ตอนนี้สภาพรถเลยดูคับแคบไปถนัดตา ซ้อนสามบ้าง นั่งตักกันบ้าง
เซฮุนเหลือบตากลับมามองคนข้างๆอีกครั้ง อี้ชิงก็ดูเหนื่อยอ่อนไม่แพ้กัน เริ่มไถลตัวลงกับเบาะเตรียมจะนอนพักผ่อน
บนรถเหลือเพียงความเงียบสงบ หลายคนนอนพักเพราะความเพลีย แต่ก็มีบางคนที่ยังไม่นอน แต่จะใส่หูฟังเพลงหรือหาอะไรเล่นในโทรศัพท์มือถือเงียบๆ เพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่นที่ต้องการพักผ่อน
ที่นั่งด้านหลังสุดมีคนอัดกันอยู่สี่คนคือเขาและอี้ชิง ถัดจากอี้ชิงคือจุนมยองและเทาที่งีบหลับซบกันอยู่ เซฮุนพินิจมองใบหน้าคนข้างๆที่ดูจะหลับไปแล้ว
ใบหน้าคมตามฉบับคนจีนแท้ๆ แต่ความเล็กของรูปหน้า ดวงตาและจมูกกลับกลั่นให้ดูอ่อนหวาน เซฮุนก้มหน้าลงไปจนชิดใบหน้าของผู้เป็นพี่จนหายใจรดกัน หยุดอยู่เพียงครู่เดียว แล้วริมฝีปากของทั้งคู่ก็แตะกันเบาๆเพราะเซฮุนไม่อยากให้อีกคนรู้ตัว
เซฮุนฝืนผละออกแล้วรีบหันหน้าหนีออกหน้าต่างเพื่อข่มเปลือกตาให้ปิดลง ใบหน้าของเด็กหนุ่มก่อตะกอนริ้วแดงๆจนเจ้าตัวรู้สึกได้
กลิ่นหอมอ่อนๆที่ยิ่งใกล้ก็ยิ่งหอมยังคงวนเวียนอยู่ในจมูก
เมื่อเข้ามาในตัวหอพัก หลังจากฝ่ากลุ่มแฟนคลับที่มารอหน้าหอ ทุกคนอยู่ในสภาพเดียวกันนั่นคือ ถ้าคลานได้คลานถ้ากลิ้งได้กลิ้ง ขึ้นหอ
เพราะช่วงนี้พวกเขามีตารางงานและฝึกซ้อมแน่นเอี๊ยดทำให้แทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนและวันนี้หลังจากอัดเพอฟอร์แมนซ์รายการเพลงเสร็จ พวกเขาก็ต้องซ้อมต่อจนถึงตีหนึ่ง แต่ก็ยังมีข่าวดีอยู่ตรงที่หลังจากวันนี้พวกเขาทุกคนไม่มีตารางงานที่ไหนเลย
หลังจากฉุดกระชากลากถูกันจนถึงห้อง หลายๆคนก็พุ่งเข้าหาเตียงทันที แต่ใครที่เริ่มตาสว่างก็จะเข้าครัวไปหามื้อดึกบ้าง อาบน้ำชำระเหงื่อไคลบ้าง เซฮุนเดินงัวเงีย ไม่สนใจคิมจงแดเจ้าของเสียงแหลมสูงนักร้องนำอีกคนของวงที่กำลังถูกน้องเล็กฝั่งเอ็มบังคับขืนใจลากเข้าห้องอาบน้ำ
เซฮุนเดินเหมือนซอมบี้เข้าห้องเพราะประตูทุกบานจะถูกเปิดทิ้งเอาไว้เพื่อความสะดวก(?) และล้มตึงลงบนเตียงหลับไปโดยไม่สนใจสายตาที่มองอย่างประหลาดใจจากคนที่อยู่ในห้องก่อนแล้ว
กลิ่นหอมอ่อนๆคุ้นจมูกทำให้เซฮุนค่อยๆได้สติ จากแดดที่ลอดผ้าม่านเข้ามาเดาว่าตอนนี้คงเป็นเวลาสายมากแล้วเมื่อขยับตัวลุกขึ้นก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่แปลกประหลาดจากเดิม ขณะกำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ก็มีคนเดินเข้ามาในห้องผ่านประตู่ที่เปิดกว้างทิ้งไว้เป็นปรกติ
"ไง ไอ้ตัวดี" อี้ชิงเท้าสะเอวแล้วแหย่อย่างสนุกสนานกับคนที่นอนบนเตียงของตัวเอง
"เอ่อ..." เซฮุนงุนงงกับสภาพรอบตัวและท่าทีของคนตรงหน้า อี้ชิงที่ดูจะจับสังเกตได้ก็รีบเฉลย
"เมื่อคืนนายเดินเข้าผิดห้องนะ นี่ห้องพี่กับผู้จัดการ ไม่ใช่ห้องนาย แล้วที่นายนอนน่ะก็เตียงพี่ ง่วงจนเบลอล่ะสิ" อี้ชิงพูดเหมือนจะกล่าวหาแต่ใบหน้ากลับยิ้มแบบทีเล่นทีจริง
เซฮุนอ้าปากค้าง ถึงแม้ว่าการสับเปลี่ยนแลกห้องนอนในบางครั้งเป็นปกติสำหรับพวกเขา แต่เซฮุนก็เป็นหนึ่งในคนที่ไม่เคยแลกห้องหรือที่นอนเพราะคิดว่ามันยุ่งยาก
"ไปกินข้าวได้แล้ว ก่อนที่ชานยอลกับจื่อเทาจะเขมือบหมด ยิ่งผอมเป็นก้างอยู่" อี้ชิงว่าจบแล้วก็เดินหายออกไปจากห้อง
ว่าคนอื่นเขาไม่ดูตัวเองเลย เซฮุนเถียงในใจแต่ก็ลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยล้าก่อนจะเดินออกไปทานอาหารเช้าอย่างที่ว่า
ถึงจะบอกว่าเช้าแต่นี่ก็จวนเที่ยงแล้ว แต่รอบโต๊ะก็ยังเต็มไปด้วนคนที่พึ่งทานอาหารเช้า น่าจะตื่นมาไล่เลี่ยกันเนี่ยแหละ เซฮุนจึงหยิบจานข้าวผัดกิมจิออกมาห่างจากห้องครัวแล้วไปนั่งทานบนพื้นห้องนั่งเล่นแทน
โทรทัศน์จอยักษ์ข้างหน้าเขาไม่ได้กำลังฉายรายการตามปกติ หากแต่ถูกแทนที่ด้วยวิดีโอเกมส์ โดยมีสองผู้อาวุโสเล่นไปโวยวายไปอย่างออกรสชาติ แข่งกับเสียงสู้รบของเทาหรือน้องเล็กฝั่งเอ็มกำลังฉุดแพคฮยอนเข้าห้องอาบน้ำโดยมีชานยอลหน้าแดงก่ำเพราะความโกรธกระทืบเท้าเหมือนเด็กดิ้นเร่าๆพยายามจะดึงแพคฮยอนออกมา คริสนอนต่ออีกยกแผ่หลากลางห้อง ส่วนพวกที่เหลือก็ส่งเสียงเอะอะกันอยู่ในห้องครัว
สงบสุขแบบแปลกๆกันดีจริง...
เซฮุนกินจนเกลี้ยงแล้วจึงเอาจานไปให้จุนมยองล้างในครัว ก่อนจะกลับมานั่งดูลู่หานกับมินซอกเล่นเกมส์กันอีกครั้งแต่ดูเหมือนว่า ทันทีที่เขานั่งลงกับพื้นมินซอกกลับกระโดดจนตัวลอย แต่ลู่หานกลับโขกหัวลงกับพื้นแล้วกรีดร้องอย่างทรมาณแทบกลบเสียงโห่ดีใจของมินซอก
พี่ลู่หานแพ้ล่ะสิ...
"...เออ เซฮุน คราวก่อนฉันบอกจะสอนนายเล่นเกมส์นี้นี่ มานี่มาๆ" ลู่หานที่เงยหน้าขึ้นมาพบกับรุ่นน้องคนสนิท กวักมือเรียกอย่างร่าเริง
เซฮุนไถตูดไปนั่งข้างๆ ลู่หานยัดจอยใส่มือเขา แล้วเริ่มสอนปุ่ม กฎกติกา และเทคนิคต่างๆ
"เหอะ แพ้แล้วยังจะไปสอนคนอื่นเขาอีก"
"เงียบไปเลยชานยอล!" ลู่หานเอ็ดชานยอลที่ยืนเท้าสะเอวหน้ามุ่ยอยู่ รอบๆตัวไม่มีแพคฮยอนเหมือนอย่างเคย เดาว่าคงแพ้เทา พี่แพคฮยอนเลยโดนลากเข้าไปอาบน้ำด้วย
"นี่ๆๆลองเล่นดูสิ ลองเล่นดูสิ" ลู่หานเซ็ตเกมส์ให้เขา
"อ๊าา~ เผลอไปเลือกแบบเล่นสองคนอ่ะ เอ..." ลู่หานยิ้มแห้ง เริ่มมองหาคนมาเล่นกับน้องชายคนสนิทแทนเขาเพราะนัดว่าจะไปร้านกาแฟกับจุนมยอง
"นี่ๆๆ อี้ชิง มานี่หน่อย" ตาของเซฮุนเบิกกว้าง เลือดสูบฉีดจนหัวใจเต้นหนักหน่วงและถี่กระชั้นขึ้น ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่ชินสักที กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ลู่หานดึงอี้ชิงลงมาแล้วยัดจอยใส่มือ ก่อนจะวิ่งตามจุนมยองที่รออยู่หน้าประตู โดยไม่พูดอะไร อี้ชิงที่แม้จะงุนงงแต่ก็ยอมเล่นกับเขาแบบมึนๆ
เซฮุนเล่นอย่างยากลำบาก เพราะสายตาเอาแต่เหลือบมองคนข้างๆ นิ้วก็พันกันจนกดมั่วซั่ว สมองก็เอาแต่คิดฟุ้งซ่านจนมึนตึ้บ หากแต่อาการแปลกๆของเซฮุน ทำให้อี้ชิงคิดว่าคงเพราะพึ่งจะเริ่มเล่นเป็นครั้งแรก ไม่นานอี้ชิงก็ชนะอย่างง่ายดาย
"นายต้องใจเย็นกว่านี้นะ" อี้ชิงเท้าคางกับตักของตัวเองแล้วหันมาทางเซฮุน อี้ชิงอยู่ในชุดกึ่งจะสบายๆ กางเกงขาเดพสีขาวกับเสื้อยืดสกรีนธรรมดา
"พี่นั่นแหละ ใส่เดพรัดขนาดนั้นนั่งกับพื้นได้ยังไง?" เซฮุนแทบจะตบปากตัวเองดังเพี๊ยะ แต่คำพูดคำจาล้อเลียนกลับทำให้อี้ชิงหัวเราะออกมาจนตัวโยน
"หนอยแน่ะ" อี้ชิงกระโดดใส่ร่างน้องเล็ก มือหนึ่งล็อกคอ อีกมือหนึ่งขยี้ผม ถึงเซฮุนจะพยายามขัดขืนแต่ดูเหมือนว่าร่างบางๆนี่จะแรงเยอะใช่ย่อย
อี้ชิงปิดท้ายด้วยการฝังหน้าลงกับกลุ่มผมของเซฮุนอย่างหมั่นเขี้ยวแล้วเลื่อนตำแหน่งลงมาที่แก้มขาวๆก่อนจะผละออก อี้ชิงลุกเดินเข้าไปในครัวเพราะจงอินเรียกโดยไม่ได้สนใจสิ่งที่ตัวเองก่อเอาไว้เบื้องหลังเลยซักนิด
น้องเล็กสุดที่สติสตางค์ดูจะพังเละเทะไปแล้วนั่งนิ่งหน้าแดงก่ำอยู่ที่เดิม
เหตุการณ์ที่ดูไม่น่าจะมีอะไรอยู่ในสายตาของใครคนหนึ่งที่แกล้งหลับมาโดยตลอด...
เช้าของอีกวันต่อมา สมาชิกในหอดูเบาบางลงกว่าเดิมมากเพราะแทบทุกคนมีตารางงานที่ต่างๆกันออกไป ที่เหลืออยู่มีเพียงเซฮุน แพคฮยอน และจุนมยอนเท่านั้น
ดูโทรศัพท์มือถือก็บอกเป็นเวลาบ่ายสองโมงแล้วแต่ก็ยังไม่อยากลุก นึกถึงเรื่องเมื่อวานแล้วก็อดหน้าแดงไม่ได้จนต้องคลุมโปงแล้วดิ้นไปมา พอดิ้นจนเหนื่อยก็กลับมาเครียดอีกครั้ง
พี่อี้ชิงทำแบบนั้นเพราะกำลังคิดอะไรกับผมอยู่รึเปล่า...? หรือแค่เอ็นดูตามประสาพี่น้อง..? พี่น้องเขาทำกันแบบนี้เหรอ? ฮือ~ แต่เราก็เคยหอมแก้มพี่ๆในวงนี่หว่า...
ความคิดตีกันไปมาในหัวจนวุ่นนวาย และเป็นซ้ำๆอยู่เกือบชั่วโมง แต่ทั้งหมดก็ต้องสะดุดลงเมื่อได้ยินเสียงเข้มๆแว้ดอยู่ปลายเตียง เมื่อโผล่หัวขึ้นมาจากผ้าห่มก็พบแพคฮยอนยืนเท้าเอวอยู่ด้วยสีหน้าหงุดหงิด กับจุนมยองหัวหน้าของฝั่งเคกำลังทำหน้ายุ่งๆ
"จะนอนกินประเทศกินทวีปรึไง? ลุกมานี่เดี๋ยวนี้ เรามีเรื่องต้องคุยกัน" พูดจบทั้งสองคนก็เดินออกไปจากห้องปล่อยให้น้องเล็กมองตามอย่างงุนงง
จะดุเรื่องที่ช่วงนี้ชอบโยนหน้าที่ล้างจานให้พี่จุนมยอนรึเปล่าเนี่ย...
แต่ก็สำนึกได้ว่าคิดไปเองคนเดียวก็คงไม่รู้เรื่องหรอก รอไปฟังจริงๆจากเจ้าตัวดีกว่า เซฮุนผุดลุกจากเตียง คว้าเสื้อนอนมาใส่ลวกๆโดยไม่ติดกระดุม
"ย่า! แต่งตัวให้เรียบร้อยหน่อยสิ!" เป็นแพคฮยอนอีกครั้งที่แหวลั่น ก็ในเมื่อสภาพมันเล่นใส่กางเกงบอกเซอร์ตัวเดียวนอน กับเสื้อนอนแขนยาวตัวโคร่งเล็กน้อยแต่ไม่ติดกระดุมเผยให้เห็นแผงหน้าอกที่ดูแน่นกำยำจากการเต้นลงมาจนถึงหน้าท้องขาวละเอียดแบนเรียบมีกล้ามเนื้อนูนออกมาเป็นรูปถึงจะไม่ถึงกับเรียกว่าซิ๊คแพ็คแต่ก็นับว่าดูเซ็กซี่ไม่น้อย
"เฮ้อ ถ้าแฟนคลับมาเห็นนายในสภาพนี้ได้สลบกันเป็นแถบๆ" จุนมยองส่ายหัวเครียด พยายามจะไม่มองน้องเล็กที่ดูราวกับหลุดออกมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นให้ตัวเองตาร้อนเล่น เพราะตัวเขากับแพคฮยอนยังมีแค่เนื้อ เนื้อขาวๆล้วนๆ ยังไม่มีกล้าม เวลาเต้นจนเสื้อเปิดแล้วแฟนคลับแคปมาแต่ละรูปนี่เจอแต่พุง...
"เห้อ! เอาละ! พี่จุนมยอง เอาเลย!" ใบหน้าขาวจัดสะบัดกลับไปมองน้องชายที่สูงกว่าเพียงสองสามเซ็นฯ
ทำท่าอย่างกับตัวเองจะเป็นคนพูดเอง...
"อ่ะแฮ่มๆ คืองี้นะเซฮุนอา..." จุนมยองเว้นช่วงเหมือนกำลังคิดว่าจะพูดดีหรือไม่ดี แต่สุดท้ายก็ต้องยอมเปิดปาก
"คือพวกฉันอยากจะรู้ว่า...ว่า ว่า ว่านาย ชอบอี้ชิงรึเปล่า?"
...
เกิดระเบิดลูกโตภายในหัวของเซฮุน แต่พี่ชายทั้งสองคนกลับไม่สังเกตถึงอาการนี้เพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับการรอคำตอบ
"ผม...ผม..." เซฮุนอ้าปากพะงาบพะงาบเมื่อคำตอบที่อยู่ในใจมันล้นจนแทบจะทะลัก นั่นยิ่งเป็นตัวขับดันเลือดให้มาเลี้ยงใบหน้า หูและลำคอจนแดงเถือก ตาคมกระพริบปริบๆอย่างเลิ่กลั่ก
"ทะๆๆ ทำไมพี่รู้.. ไม่ใช่ๆ พี่ไปรู้.. ไป..ไปเอาที่ไหนมาพูด" เสียงทุ้มต่ำตะกุกตะกักอย่างชัดเจนกับเนื้อหาประโยคที่ไม่เป็นธรรมชาติอย่างแรงทำให้แพคฮยอนและจุนมยอนหันไปสบตากัน
อาการหนักขนาดนี้ไม่ต้องบอกก็รู้แล้ว...
"นายไม่ชอบอี้ชิงเหรอ? ประมาณว่า แค่พี่ชายอะไรงี้" แพคฮยอนลองทิ้งระเบิดซ้ำ คราวนี้น้องเล็กถึงกับยกมือทั้งสองขึ้นมาปิดหน้า
"ก็พี่ชายไงเล่า...ก็บอกว่าแค่พี่ชาย...ชอบ..ชอบแบบพี่ชาย ก็แค่ชอบแบบพี่ชายแค่นั้นเอง พี่ชาย ใช่ๆ พี่น้องกัน"
พอเถอะเซฮุนเอ๊ย...มันยิ่งซะกว่าแก้ตัวน้ำขุ่นๆซะอีก
"ตุ้ยจาง ชัดเลย ได้ยินใช่ป้ะ?" แพคฮยอนหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาแนบหูโดยไม่ได้แตะหน้าจอหรืออะไรใดๆทั้งสิ้น นั่นหมายถึงสายถูกต่อเอาไว้อยู่แล้ว และปลายทางก็จะต้องได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกันแน่ๆ
"เออ แน่ใจใช่ไหม?" เสียงทุ้มเข้มของหัวหน้าวงฝั่บเอ็มกรอกมาตามสาย
"ถ้านายมาเห็นหน้าไอ้ฮุนตอนนี้นายจะรู้เลยว่าชัวร์ล้านเปอร์เซ็น" แล้วแพคฮยอนก็วางสาย เป็นเวลาเดียวกับที่ประตูห้องพักถูกเปิดออกพร้อมกับสมาชิกวงฝั่งเอ็มทั้งหมด เมื่อเผลอไปสบตากับใครคนหนึ่งกลางวงเซฮุนก็กลืนน้ำลายเอื้อกวิ่งโร่กลับเข้าห้องนอนทันที ปิดประตูอย่างแรงพร้อมเสียงกลอนที่แสดงว่าเซฮุนล็อกห้องจากข้างใน
แหม...ทำอย่างกับเด็กสาวโดนพรากเวอจิ้น แพคฮยอนแอบแซะในใจเป็นพิธีแล้วเสตากลับมามองคนที่ยืนอยู่กลางวงสมาชิกฝั่งเอ็ม
"แล้วนี่จะเอายังไง?" ทุกคนในห้องรวมสายตาไปที่ตัวต้นเหต
"ฉันจัดการเอง..." อี้ชิงเดินเลาะออกจากกลางวงมาถึงหน้าห้องนอนที่เซฮุวิ่งเข้าไปเมื่อครู่แล้วเคาะเบาๆ
"เซฮุน...เซฮุนอา"
ถึงแม้จะไร้เสียงตอบรับแต่อี้ชิงก็ไม่ละความพยายาม
"เซฮุน นี่พี่เองนะ"
ประตูห้องนอนเปิดผ่างออกมาอย่างรุนแรงทำให้แทบทุกคนสะดุ้งจนตัวลอย
อี้ชิงที่ไม่ทันจะได้มองหน้าน้องเล็กก็ถูกมือแกร่งคว้าเอวเขาไว้และกระชากไปจนชิดแผ่นอก มืออีกข้างประคองท้ายทอยคนเป็นพี่ขึ้นมารับจูบหนักหน่วง
ทุกคนรวมทั้งอี้ชิงเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก แต่เซฮุนก็ยังไม่พอใจ เอียงคอให้ได้องศาแล้วบดขยี้หนักหน่วงกว่าเดิมเหมือนจะกลืนกินปากอิ่มเข้าไป รุนแรงแต่เต็มไปด้วยความรู้สึก อี้ชิงตอบสนองด้วยการคล้องแขนไว้ที่ลำคอของน้องเล็ก
ไม่นานบทจูบอันหนักหน่วงก็ปิดฉากลงพร้อมกับน้ำตาลูกผู้ชายของโอเซฮุนที่ทุกคนเห็นแล้วถึงกับไปไม่เป็น
"ผมขอโทษ..ขอโทษครับ ผมขอโทษ.." เซฮุนพูดอย่างยากลำบาก ไหล่หนาสั่นด้วยแรงสะอื้น เหมือนสัตว์ตัวเล็กๆที่กำลังบาดเจ็บ จนอี้ชิงใจหาย
"เซฮุน ขอโทษเรื่องอะไรน่ะ พี่ไม่ได้โกรธอะไรเซฮุนซักหน่อย" อี้ชิงปลอบโยน พยายามใช้มือทั้งสองข้างประคองใบหน้าคมของคนเป็นน้องที่ก้มหน้าร้องไห้งุดๆให้เงยขึ้นมา
ตาแดงก่ำสบกับดวงตาใสๆเหมือนลูกแก้ว
"ร้องไห้ทำไมไอ้ตัวดี? เจ็บตรงไหนรึเปล่า? มีใครทำอะไรนาย?" อี้ชิงเอื้อมมือไปปัดผมที่ระหน้าเซฮุนออกเบาๆ แล้วเปลี่นนเป็นลูบหัวอย่างอ่อนโยน
"ผม..รัก..พี่.. รักมานาน...มาก..แล้ว แต่ผมกลัว..ว่าพี่จะ..ฮึก..รังเกียจผม เพราะผมเป็น..ผู้ชาย..มันไม่ควร..เกิด..ขึ้น.."
เสียงสะอื้นอย่างเจ็บปวดของน้องเล็กเริ่มทำให้หลายๆคนรู้สึกเป็นห่วง
"พี่...อย่าเกลียดผม..ฮึก..นะ อย่าเกลียด...อย่าไปไห..น ไม่ต้องสนใจ..ผม..ผมก็ได้..แต่อย่า..อย่าเกลียดผม...นะ ผมจะ..รีบตัด..ตัดใจ ให้เร็วที่สุด" เสียงสะอื้นดูจะดังขึ้นเรื่อยๆจนอี้ชิงต้องรีบปาดน้ำตาให้เซฮุนยกใหญ่
"พี่ไม่เกลียดนายหรอก"
เซฮุนพยักหน้ารัวๆทั้งที่ยังสะอึกสะอื้นไม่หาย
"แต่ถ้านายตัดใจฉันจะเกลียดนายโอเซฮุน"
ตาคมที่เต็มไปด้วยหยดน้ำตาเบิกโพลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับอี้ชิงอย่างฉงนเพราะ เขามั่นใจว่าตัวเองได้ยินอะไร แต่ไม่แน่ใจในความหมาย
"ทำหน้าแบบนั้นทำไม?"
"พี่...ที่พี่พูดหมายความว่าไง?"
"ก็ตามที่พูดนั่นล่ะ"
"..."
"เซฮุุน พี่ชอบมาเลยนะเวลาที่เซฮุนแอบมองพี่ หน้าแดงเวลาพี่เข้าไปใกล้ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจหรอก พี่ก็เลยชอบเข้าแหย่เซฮุนเล่น ขอโทษนะ พี่ทำให้นายสับสนใช่ไหม?"
"เอ๊ะ? หมายความว่า..."
"แต่ถ้านายจะตัดใจไม่เอาด้วยหรอก พี่ชอบนะ ชอบมากเลย ชอบทุกๆอย่าง ตอนที่เซฮุนทำท่าเก้ๆกังๆ ตอนที่เซฮุนมานั่งเฝ้าพี่ที่ห้องซ้อมทุกวัน ตอนที่เซฮุนจูบ...อื้ม!"
ปากสีสดถูกปิดทับลงอีกครั้ง อี้ชิงเกือบจะผละออกด้วยความตกใจแต่ก็ทีท่อนแขนมาล๊อกเอวไว้ทำให้ขยับไปไหนไม่ได้ แต่สุดท้ายคยเป็นพี่ก็จูบตอบกลับไป นานหลายนาที ในที่สุดทั้งสองก็ผละจากกัน ร่างบางขยับเข้าไปชิดกับร่างของน้องเล็กมากกว่าเดิมแล้วกระซิบเบาๆข้างหู
ให้นายดูแลพี่ได้ไหม
ครับ
หลังจบเหตุการณ์ช๊อควงอย่างนักเต้นเท้าไฟของฝั่งเอ็มมากอดจูบลูบคลำ(?)กับน้องเล็กฝั่งเคกลางห้องพักจนตกเป็นแฟนกันในที่สุด ทำให้สมาชิกที่เหลือที่เพิ่งกลับมาถึงหอได้ยินถึงกับอ้าปากค้าง
"อะ..อี้ชิงกับเซฮุนอ่ะนะ" นิ้วอันสั่นเทาของชานยอลชี้หน้าแพคฮยอนเหมือนจะกล่าวหา
"ก็เออซิฟะ ดูนู่น!" แพคฮยอนปัดมือชานยอลทิ้งแล้วพยักเพยิดหน้าไปทางคนสองคนที่นั่งเหยียดขากับพื้นหลังพิงกำแพง ทั้งสองคนนั่งชิดกันมากและกำลังแบ่งหูฟังคนละข้างพลางดูอะไรซักอย่างในโทรศัพท์มือถือที่เซฮุนถือไว้เพราะจอหน้าจอที่เล็กเกินไปทั้งสองคนจึงต้องเอาหัวพิงกัน
"ถ้าจะชิดขนาดนี้นอนทับแล้วปรี้กันไปเลยก็น่าจะง่ายกว่านะ" หัวหน้าวงฝั่งเอ็มที่นอนกลิ้งอยู่กับพื้นกลางห้องอดแขวะอย่างเสียไม่ได้ ทำให้น้องเล็กแยกเขี้ยวใส่
"ให้มันน้อยๆหน่อย ฉันเป็นคนทำให้พวกนายสมหวังอย่าลืมซะล่ะ"
"คร้าบๆๆ ขอบคุณคร้าบตุ้ยจาง~" คราวนี้เป็นอี้ชิงที่เงยหน้าขึ้นมาเหยียดยิ้มประชดประชันเต็มที่ จนคนที่นอนแผ่ต้องกลิ้งไปอีกทาง
ย้อมกลับไปเมื่อวาน
05.35 AM
"เร็วหน่อยเด็กๆ การอัดรายการจะเริ่มตอนเก้าโมง ถ่ายแบบจะเริ่มตอนแปดโมง" เสียงห้าวของผู้จัดการเอ็ดอยู่หน้ารถตู้สองคัน พลางบ่นถึงตารางงาน กว่าจะแต่งหน้าแต่งตัวกัน เฮ้อ เครียด
"เฮ้ยๆๆ จงอินรถตูคันนั้นของพวกที่ไปถ่ายแบบ นายอัดรายการต้องขึ้นคันนี้ เฮ้ย! ฟังอยู่รึเปล่า คยองซูมาลากมันไป!" สิ้นเสียงผู้จัดการ ร่างเล็กๆที่พึ่งเดินออกจากหอก็วิ่งดุ๊กดิ๊กมาลากท่อนแขนผู้มีศักดิ์เป็นน้องที่หลับคาเบาะรถตู้สำหรับพาไปถ่ายแบบไปแล้วให้กลับมาขึ้นอีกคัน
"ให้ตายสิ เมื่อวานนี้ก็อุตสาห์เคลียร์ให้พักทั้งวันแล้วนะ มันทำอะไรกันอยู่เนี่ย" ผู้จัดการขยี้หัวเพราะความเครียดเล็กน้อยถึงมาก เมื่อดูว่าสมาชิกที่มีตารางงานมากันครบแล้วจึงมาเช็กรถตู้ทั้งสองคันก่อนจะโดดขึ้นรถตู้ของฝั่งที่ต้องอัดรายการไป
ในรถตู้ของฝั่งถ่ายแบบ มีเพียงสมาชิกฝั่งเอ็ม ผู้จัดการอีกคนและคนขับรถ
คริสเรียกคนที่ทำท่าจะยัดหูฟังใส่หู
"อี้ชิงมานี่" เจ้าของชื่อชะงักมือขณะกำลังแกะสายหูฟังที่พันกันยุ่งหันกลับไปมองเบาะหลังสุด
"มานี่" คริสเรียกซ้ำพร้อมกวักมือเร่งเร้าจนสุดท้ายอี้ชิงก็ยอมลุกเดินมาหาเขาอย่างทุลักทุเล ยังไม่ทันถึงตัวคริสจงแดที่นั่งอยู่ตรงกลางก็ลุกขึ้นและเดินสวนไปนั่งทับที่ของอี้ชิง ซึ่งอดีตเจ้าของที่นั่งก็มองพฤติกรรมนั้นงงๆ แต่งงได้ไม่นานแขนทั้งสองข้างก็ถูกคว้าแล้วลากให้มานั่งตรงกลางระหว่างคริสและลู่หาน คนนึงล๊อกแขนฝั่งนึง อีกคนก็ล๊อกอีกฝั่ง
"นี่เล่นอะไรกันเนี่ย?" อี้ชิงตื่นตระหนกขึ้นมาทันที เมื่อจู่ๆก็ถูกจับล๊อกแถมคนอื่นๆในรถยังหันมามองเขาเป็นตาเดียวอีกด้วย(เว้นคนขับรถ)
"เรามีเรื่องจะถามนาย อี้ชิง" ลู่หานเก๊กเสียงเข้มขณะบีบต้นแขนอี้ชิงแล้วคลายเป็นการกระตุ้น แต่เหมือนจะทำให้อี้ชิงตกใจยิ่งกว่าเดิม
"นายคิดยังไงกับเซฮุน?" อี้ชิงตาเบิกกว้าง สะบัดหน้าไปทางต้นเสียงอย่างแรง
"หมายความว่ายังไง?"
"นายคิดยังไงกับเซฮุน หมายถึงชอบรึเปล่าอะไรประมาณนี้" ตุ้ยจางของวงขมวดคิ้วหมุ่น
...ความเงียบสงบปกครองในรถอยู่หลายนาที ทำให้ลู่หานที่ดูจะมีความอดทนในการอยู่นิ่งๆต่ำต้องเป็นฝ่ายออกตัว
"จางอี้ชิง ตอบมาเดี๋ยวนี้นะ"
"นายรู้รึเปล่าว่าเซฮุนชอบนาย" พี่ใหญ่หน้าเด็กอย่างคิมมินซอก นั่งชันเข่ายืดตัวแล้วเกาะเก้าอี้หันหลังให้ทิศหน้ากระจกรถ
"ก็...เคยสงสัยอยู่หรอก ...แต่คิดว่ารู้แล้วล่ะ" อี้ชิงเอ่ยอย่างเหม่อลอย
"ตอนไหน? เมื่อไหร่? ยังไง?"
"นายเงียบๆไปเถอะลู่หาน"
"หุบปากฮวางจื่อเทา อีกอย่าง ฉันเป็นพี่นายนะ!"
"ก็ซักพักแล้วล่ะ ประมาณเมื่อเดือนก่อน เซฮุนชอบมองฉันแปลกๆ ไม่รู้สิ แต่ที่แน่ใจเพราะเมื่อวานซืนเซฮุนแอบจูบฉันตอนหลับน่ะสิ"
"หา!" ทุกคนเบิกตากว้างกับข่าวใหม่สดๆร้อนๆ
"ได้ยังไง? ตอนไหน?" เสียงแหลมๆของเฉินโหวกเหวกมาจากเบาะหน้าสุด
"จำได้รึเปล่าที่รถเราเสียเลยต้องมาขึ้นรถของเคน่ะ"
ทุกคนพยักหน้ารับด้วยสายตาเร่งเร้าให้เล่าต่อ
"ฉันนั่งข้างเซฮุนที่เบาะหลังสุดนี่ แล้วฉันก็กะจะงีบ ฉันต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะหลับลงเพราะที่มันแคบ เลยอึดอัด แต่เซฮุนท่าทางจะนึกว่าฉันหลับไปแล้วน่ะก็เลย.." อี้ชิงยกมือเกาท้ายทอยหลบสายตาทุกคนที่จ้องมองมา
"แล้ว แล้วยังไงเนี่ย นายชอบเซฮุนรึเปล่า ชอบรึเปล่า" จบคำของลู่หาน ทำให้คนถูกยิงคำถามใส่หน้าแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
"อ่า ก็...มั้ง..ไม่รู้สิ" อี้ชิงยกมือเกาท้ายทอยแก้เขินอีกครั้ง
"อย่าไม่รู้สิ ต้องชัดๆ หัวใจไม่ใช่ของเล่นนะ โดยเฉพาะกับเซฮุนด้วย" คริสเปลี่ยนบรรยากาศให้กลายเป็นกดดัน ทำให้อี้ชิงต้องหลบตาแล้วก้มหน้าลง
"คิดดีๆ ทบทวนให้ดี" คริสพูดทิ้งท้ายแล้วก็ปล่อยให้อี้ชิงนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเองจนกระทั่งมาถึงที่หมาย
การถ่ายแบบนิตยาสารผ่านไปอย่างราบรื่น ยกเว้นจางอี้ชิงที่นั่งเหม่อไปแทะขนมไปจนคนอื่นๆผิดสังเกต แต่พอใครเข้ามาถามเจ้าตัวก็จะทำเพียงยิ้มและบอกว่าไม่มีอะไร
ให้ตายสิ...
มินซอกที่ยืนดูอาการอยู่ห่างส่ายหัวเบาๆ ขณะที่มักเน่ตัวยักษ์ฝั่งเอ็มเดินเข้าไปบริเวณฉากสวนทางกับจงแดที่เดินออกมาตามคิว และเปลี่ยนบุคลิกจากเด็กซนๆซื่อๆ กลายเป็นมาเฟียฮ่องกงหน้ากล้องแทน
จงแดเดินเข้ามาหามินซอกที่มีท่าทีเหนื่อยหน่าย
"อย่าทำหน้าเป็นซาลาเปาบูดงั้นซิ" มือหยาบๆหยิกแก้มนุ่มนิ่มของพี่ใหญ่จนมินซอกตาขวางปัดมือจงแดทิ้ง
"ฉันกำลังเครียดอยู่" มินซอกโบกมือไล่คนที่มากวนเหมือนไล่แมลงวันทำให้จงแดยื่นปากเหมือนเป็ดเพราะไม่พอใจ
"เรื่องอี้ชิงใช่ไหมล่ะ ได้ เดี๋ยวผมจัดการเอง" พูดจบก็เดินไปลากเก้าอี้แถวๆนั้นไปนั่งข้างๆอี้ชิงโดยไม่ฟังเสียงห้ามของมินซอก
"อี้ชิงเกอ มองหน้าผม" ได้ผล อี้ชิงหันกลับมามอง ถึงจะดูมึนๆไปนิดก็เถอะ
"พี่ชอบเซฮุนรึเปล่า" อี้ชิงเผลอขบปากล่างขณะที่เลือดสูบฉีดจนหน้าแดงแข่งกับห่อขนมที่กินอยู่
"ไม่แน่ใจเหมือนกัน"
"งั้น...พี่ชอบอยู่ใกล้ๆเซฮุนป้ะ"
อี้ชิงพยักหน้า
"แต่พี่ก็ชอบอยู่ใกล้ๆทุกคนนะ"
"รู้สึกยังไงตอนเซฮุนจูบ" อี้ชิงชะงักค้างไปแว่บนึงแต่ก็กลับเป็นเหมือนเดิม แต่ไม่ว่ายังไงก็หนีสายตาของจงแดไม่พ้น
"ถ้าเซฮุนชอบกับลู่หานเกอล่ะ แล้วที่เซฮุนชอบพี่ก็เป็นแค่เรื่องที่พี่กับพวกเราเข้าใจผิด ความจริงแล้วเซฮุนชอบลู่หานเกอที่อยู่กับพี่บ่อยๆล่ะ" คราวนี้เหมือนมีอะไรซักอย่างดำมืดพุ่งวาบขึ้นมาดวงตาใสๆเหมือนแก้วของอี้ชิงจนขุ่นมัว
จงแดเหงื่อตกเล็กน้อยกับปฏิกิริยาที่คาดไว้แล้วแต่น่ากลัวกว่าที่คิด จึงเปลี่ยนทิศทางของคำถาม
"แล้วถ้าคริสเกอมาชอบพี่ล่ะ" อี้ชิงเอียงคออย่างครุ่นคิด พยายามนึกภาพกับคู่จิ้นที่แฟนๆชอบจิ้นกัน
เป็นคำถามเดียวกับตอนที่ถามว่าชอบเซฮุนรึเปล่าแต่อาการกลับแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
"แล้วถ้าคริสเกอคบกับลู่หานเกอล่ะ"
"ก็ดีสิ น่ายินดีกับทั้งคู่ออก" คราวนี้แววตาของอี้ชิงมีประกายร่าเริงสว่างวิบวับจนจงแดเข้าใจอย่างถ่องแท้
"อี้ชิงเกอ พี่เก็บคำถามของผมไปคิดดูนะ น่าจะช่วยได้" ว่าจบจงแดก็ลุกออกไปทิ้งอี้ชิงให้ นั่งจมอยู่กับความคิดตัวเองอีกครั้ง
นั่นสินะ...
"...คริส!" อี้ชิงผุดลุกขึ้น แล้ววิ่งตรงไปหาตุ้ยจางของวงที่กำลังเช็ครูปตัวเองผ่านจอมอนิเตอร์ จงแดจึงยักคิ้วใส่มินซอก
"คริสเกอ!" เสียงทุ้มของหัวหน้าวงที่อารมณ์เสียเล็กน้อยตะโกนเอ็ดกลับมาเพราะน้องที่อยู่ในการดูแลดันเรียกชื่อเขาห้วนๆ
"เออนั่นแหละ!" ไม่ได้ผล...
14.33 PM
"จะเอาอย่างนี้จริงดิ" เทาบ่นหน้าเครียดขณะที่จ้องโทรศัพท์มือถือที่ถูกวางอยู่กลางวงพวกเขา
"เออ น่า" คริสบอกปัด พวกเขาทั้งหกคนนั่งล้อมวงเหมือนเล่นไพ่อยู่หน้าประตูห้องพัก ตามแผนของคริส หลังจากที่เราเรียกทุกคนที่อยู่ในห้องตอนนี้มาอธิบาย ถึงตอนแรกจุนมยอนกับแพคฮยอนจะช๊อคจนอ้าปากค้างแต่ก็ยอมร่วมแผนการด้วย
"โทรมาแล้ว!" ลู่หานชี้โทรศัพท์เหมือนเด็กเจอของเล่นที่ถูกใจ คริสจึงกดรับและเปิดลำโพง ทำให้พวกเขาทุกคนสามารถได้ยินทุกคำสนทนาในห้อง
ปัจจุบัน
เซฮุนเนียนเอาจมูกซุกกับกลุ่มผมของคนที่พิงหัวไว้บนไหล่เขาขณะที่กำลังดูรายการเพลงในเว็บไซต์ผ่านโทรศัพท์มือถือ
หอมจัง...
"พี่อี้ชิง ผมรักพี่นะ"
"...อืม ...รักเหมือนกัน.."
เสียงโห่แซวจากทั้งห้องทำให้คู่ข้าวใหม่ปลามันสะดุ้งเหือก เพราะพวกเขาใส่หูฟังและมัวแต่สนใจกันเองทำให้ทั้งคู่ไม่รู้สึกตัวว่าทั้งห้องเงียบเสียงลงและถูกจับตามองอยู่ ทำเอาทั้งเซฮุนและอี้ชิงหน้าแดงเถือก พยายามกลบเกลื่อนด้วยการแยกเขี้ยวใส่คนนู้นทีคนนี้ที
อีกหนึ่งวันที่มีความสุขก็ผ่านไป แต่คนทั้งคู่ก็ให้สัญญากับตัวเองว่าพรุ่งนี้จะต้องมีความสุขยิ่งกว่า...
สุกแล้วคีบใส่ปากเลย... #ไม่ใช่
[SF] Redolence 2 - 30%
โครม!
ทุกชีวิตในห้องนั่งเล่นที่นอนก่ายกันอยู่เต็มพื้นสะดุ้งและลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ เพราะเสียงจากทางห้องครัว ทุกกคนมีสีหน้าตื่นตลึง มองซ้ายมองขวาจ้องตากันเองเพื่อให้ใครสักคนลุกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“…”
แต่ไม่ทันจะได้มีผู้เสียสละ ก็มีเสียงเดินปึงปังมาจากห้องครัว น้องเล็กร่างสูงโปร่งเดินมาหยุดบริเวณห้องนั่งเล่น ใบหน้าบูดเบี้ยวด้วยความไม่พอใจ หยุดยืนไม่นานก็เดินหายไปจากห้องพักโดยไม่สบตาใครสักคน นั่นยิ่งทำให้สมาชิกคนอื่นๆงุนงงกันเข้าไปใหญ่
ยังไม่ทันหายสงสัยจางอี้ชิงหรือเลย์สมาชิกวงชาวจีนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของมักเน่ตัวสูงก็เดินออกมาจากครัว มาหยุดยืน ณ จุดเดียวกับเซฮุนเมื่อครู่ แต่คนนี้ไม่ได้ชักสีหน้าหรือฟึดฟัดอะไรไดๆทั้งนั้น เพียงแค่ทำหน้าเรียบเฉยและกวาดตาเหี้ยมๆใส่สมาชิกเหมือนต้องการจะพูดอะไรสักอย่างแต่สุดท้ายก็ไม่พูด หมุนตัวกลับเข้าห้องนอนไปซะงั้น สำหรับคนอื่นจะคิดว่าจางอี้ชิงดูปกติ แต่สำหรับสมาชิกที่รู้จักกันมานานแล้ว อาการเมื่อกี้เขาเรียก ‘เดือดทะลุจุด’ เป็นกับระเบิดที่แค่เพียงสะกิดนิดเดียวก็พร้อมทำลายล้างทุกอย่าง จึงไม่มีใครกล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง
หลังจากผ่านไปสักพักสมาชิกทุกคนก็พร้อมใจกันลุกขึ้นยืนและกรูกันไปยังห้องครัว แล้วก็พบเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่งกองอยู่กับพื้นในสภาพกึ่งเละเทะ หลังจากดูกันจนพอใจแล้ว ทุกคนก็เริ่มแยกย้ายไปกลุ่มละจุดสองจุดเพื่อปรึกษากันบ้าง คุยกันบ้าน เหมือนเด็กประถมเข้าฐานกิจกรรม
ทางฝ่ายอี้ชิงที่เดินเข้ามาในห้องนอนเพื่อสงบสติอารมณ์ จำเป็นต้องปิดประตูห้องเพื่อตัดการรับรู้จากภายในหอพัก เขาต้องใช้เวลาอยู่กับตัวเองสักครู่ ไม่งั้นคงได้เผลอเหวี่ยงใส่สมาชิกแน่
ถึงตอนนี้จะอยากเหวี่ยงนิดหน่อยเพราะหมั่นไส้ที่มานั่งจับกลุ่มเมาท์กันอย่างกับแม่บ้านดูละครหลังข่าวก็เถอะ
ดวงตาคมกริบเมื่อเรียบนิ่งดูดุดันขึ้นอย่างไม่ตั้งใจเหลือบไปมองต้นเหตุการณ์ผิดใจกันระหว่างเขากับเซฮุนคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คสีดำบนเตียงผู้จัดการที่เมื่อครู่เซฮุนแอบหยิบมาเล่นเรื่อยเปื่อยซ้ำยังนอนไปเล่นไปราวกับเป็นเตียงของตัวเองก็ไม่ปาน แล้วไอ้ตัวดีของเขาก็นึกคึกไปเช็กเรตติ้งวง ไปๆมาๆก็เจอกระทู้คู่จิ้นของเขากับหัวหน้าวงฝั่งเอ็มของแฟนคลับซะงั้น เท่านั้นแหละพุ่งเข้ามาเค้นคอเขาเราเฉยเลย ไอ้เราก็ไม่อยากทะเลาะเลยเดินหนีมาห้องครัว ก็ยังตามมาอีก สุดท้ายมายืนเถียงกันจนเซฮุนเลือดขึ้นหน้าปัดเก้าอี้ที่คว่ำไว้บนโต๊ะเพื่อประหยัดพื้นที่จนตกมาหัก ก็ไม่ได้เลือดขึ้นหน้าเป็นคนเดียว พอเห็นน้องเล็กก้าวร้าวก็เลยเผลอโมโหและตั้นหน้าไปหมัดนึง
แล้วไอ้เด็กตุ๊ดนั่นก็โกรธเดินหนีไปเลย…
อี้ชิงขยี้ผมด้วยมือทั้งสองข้างจนกระเซอะกระเซิง ก่อนจะหงายตัวนอนลงไปกับเตียง ก็เข้าใจว่าน้องมันยังเด็กเรื่องอารมณ์ชั่ววูบมันก็มีบ้าง แต่ไอ้การทำลายข้าวของนี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ เขาเองก็เช่นกัน ยอมรับเลยว่าที่เผลอต่อยเซฮุนเมื่อกี้ก็เพราะอารมณ์ล้วนๆ
ถึงจะรักกันแต่ยังไงก็ยังเป็นผู้ชายทั้งแท่งเหมือนกันนี่นา จะให้มาอารมณ์แบบซี่รีย์นางเอกแสนดีกับพระเอกเอาแต่ใจอะไรทำนองนั้นก็คงไม่ใช่
ถึงตอนนี้จะไม่ได้โกรธหรือโมโหอะไรแล้วแต่ก็ยังไม่รู้สึกผิดอยู่ดี ไหนๆก็อยากดัดนิสัยให้ไอ้เด็กเอาแต่ใจนั่นบ้างอยู่แล้ว
มาง้อเอาเองละกัน โอเซฮุน!
อารมณ์ไม่ดี…มาก และกำลังภาวนาอย่าให้บังเอิญแฟนคลับที่ไหนมาเจอเขาตอนนี้ เพราะเขากำลังอยู่ในสภาวะที่เหวี่ยงได้ไม่เลือกหน้าอินทร์หน้าพรหม จะเก๊กหน้าให้ดูอารมณ์ปกติยังทำไม่ได้เลย…
เซฮุนกำมือที่ช้ำจนม่วงแน่น ด้วยความเย็นของอากาศทำให้มือชาจนแทบไม่รู้สึกเจ็บ ก็นับว่าโชคดี เพราะเมื่อกี้หลังจากเดินหนีออกมาจากหอพักเขาก็ชกเสาไฟฟ้าระบายอารมณ์เป็นบ้าเป็นหลังจนแทบหมดแรง ความโกรธก็พอจะทุเลาลงบ้าง แต่ความน้อยอกน้อยใจกลับไม่ลดลงเลย
ไม่เคยรู้สึกแย่ขนาดนี้มานานมากแล้วตั้งแต่ถูกแกล้งอย่างแรงตอนเป็นเด็กเทรนจนเกือบต้องออกจากการเป็นเด็กฝึก ถึงจะรอดมาได้และผ่านมาสองสามปีแล้วแต่พอนึกย้อนกลับไปก็ยังรู้สึกขุ่นใจไม่น้อย แต่มันเทียบไม่ได้เลยกับตอนนี้
---------------------------------------------------
เดี๋ยวมาต่อเรื่อยๆนะคะ ขอบคุณที่ติดตามและให้กำลัง
ผลงานอื่นๆ ของ FLONN ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ FLONN
"ฮุนเลย์ๆๆๆๆๆ"
(แจ้งลบ)อ๊่ายยย ~ >< ฮุนเลย์ๆๆๆๆ เราชอบฮุนเลย์มากๆเลยยย นี่เมนน้องฮุนด้วยงิ นอกจากอี้ชิงแล้วเราไม่ให้ใครจิ้นน้องฮุนนะขอบอกก จะมีพี่หานบ้างบางคราว55555 แต่งเยอะๆน้าาาา เอาแบบน่ารักมุ้งมิ้งได้ยิ่งดีเลยยย เราชอบ3pนะ4pได้ยิ่งดีเลยย เอาคริสเลย์ลู่ คริสเลย์ฮุน คริสลู่เลย์ฮุน เอาแบบว่าน้องอี้มีบอดี้การ์ด มีพี่ๆหวงงิ > ... อ่านเพิ่มเติม
อ๊่ายยย ~ >< ฮุนเลย์ๆๆๆๆ เราชอบฮุนเลย์มากๆเลยยย นี่เมนน้องฮุนด้วยงิ นอกจากอี้ชิงแล้วเราไม่ให้ใครจิ้นน้องฮุนนะขอบอกก จะมีพี่หานบ้างบางคราว55555 แต่งเยอะๆน้าาาา เอาแบบน่ารักมุ้งมิ้งได้ยิ่งดีเลยยย เราชอบ3pนะ4pได้ยิ่งดีเลยย เอาคริสเลย์ลู่ คริสเลย์ฮุน คริสลู่เลย์ฮุน เอาแบบว่าน้องอี้มีบอดี้การ์ด มีพี่ๆหวงงิ > อ่านน้อยลง
kanoknoina | 7 ม.ค. 57
0
0
"ฮุนเลย์ๆๆๆๆๆ"
(แจ้งลบ)อ๊่ายยย ~ >< ฮุนเลย์ๆๆๆๆ เราชอบฮุนเลย์มากๆเลยยย นี่เมนน้องฮุนด้วยงิ นอกจากอี้ชิงแล้วเราไม่ให้ใครจิ้นน้องฮุนนะขอบอกก จะมีพี่หานบ้างบางคราว55555 แต่งเยอะๆน้าาาา เอาแบบน่ารักมุ้งมิ้งได้ยิ่งดีเลยยย เราชอบ3pนะ4pได้ยิ่งดีเลยย เอาคริสเลย์ลู่ คริสเลย์ฮุน คริสลู่เลย์ฮุน เอาแบบว่าน้องอี้มีบอดี้การ์ด มีพี่ๆหวงงิ > ... อ่านเพิ่มเติม
อ๊่ายยย ~ >< ฮุนเลย์ๆๆๆๆ เราชอบฮุนเลย์มากๆเลยยย นี่เมนน้องฮุนด้วยงิ นอกจากอี้ชิงแล้วเราไม่ให้ใครจิ้นน้องฮุนนะขอบอกก จะมีพี่หานบ้างบางคราว55555 แต่งเยอะๆน้าาาา เอาแบบน่ารักมุ้งมิ้งได้ยิ่งดีเลยยย เราชอบ3pนะ4pได้ยิ่งดีเลยย เอาคริสเลย์ลู่ คริสเลย์ฮุน คริสลู่เลย์ฮุน เอาแบบว่าน้องอี้มีบอดี้การ์ด มีพี่ๆหวงงิ > อ่านน้อยลง
kanoknoina | 7 ม.ค. 57
0
0
ความคิดเห็น